วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจาก รพ.กระบี่ว่า ได้มีผู้เสียชีวิต ที่ถูกส่งตัวมารักษาต่อจาก รพ.เกาะลันตา หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่ รพ.กระบี่
พบว่าผู้เสียชีวิตคือนายไพร อายุ 35 ปี โดนยิงเข้าท้อง 1 นัด เบื้องต้นทางญาติของคนตายได้รอรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านที่ อ.เกาะลันตาแล้ว
ขณะเดียวกันทางตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ได้ประสานไปยัง สภ.เกาะลันตาเพื่อให้ทราบว่า ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตแล้ว ด้านน้องสาวของผู้ตายอายุ 29 ปี เป็นอดีตพนักงานโรงงานจำหน่าย เทปใส / เทปกาว เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองอยู่ได้บ้านได้ยินเสียงพี่ชายขอร้องให้ช่วยนำส่ง รพ.
ซึ่งขณะนั้นระหว่างทางพี่ชายบอกว่าตนเองน่าจะโดนไฟฟ้าช็อต เพราะไม่ได้ดูแผล ระหว่างทางพี่ชายก็ยังบอกว่าอาจโดนยิงก็ได้ จนส่ง รพ.และมาทราบอีกทีตอนดึกจาก รพ.เกาะลันตาว่าพี่ชายโดนยิง จึงได้มาแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้พี่ชายเคยถูกยิงใส่บ้านมาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งพี่ชายก็บอกว่า น่าจะเป็นนายวัชระ เพราะเคยมีปากเสียงกันมาก่อนเรื่องที่ภรรยานายวัชระเลิกกับภรรยา และกล่าวหาว่าพี่ชายไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ ผกก.สภ.เกาะลันตา เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คืนวันที่ 23 ก.ค. 66 โดยคืนเกิดเหตุผู้ตายได้มีปากเสียงกับนายวัชระ อายุ 36 ปี เรื่องที่นายวัชระ ระแวงกล่าวหาผู้บาดเจ็บว่าไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่ จากนั้นได้แยกย้ายกัน
ต่อมาได้เกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงนายไพร จนบาดเจ็บทางญาติได้นำส่งนายไพร มาที่ รพ.เกาะลันตา แต่อาการหนักจึงส่งต่อ รพ.กระบี่ในคืนดังกล่าว
พ.ต.อ.ศิริธรรม เปิดเผยต่อไปว่า ต่อจากนั้นเวลาประมาณ 08.30 น.วันที่ 24 ก.ค. 66 ทางญาติได้มาแจ้งความที่ สภ.เกาะลันตา ตนได้ให้ชุดสืบสวนออกสืบสวนจนทราบว่า นายวัชระ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไปเชิญตัวมาที่ สภ.เกาะลันตาและสอบสวนจนนายวัชระ รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงจริง
โดยใช้ปืนยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 ไปซุ่มยิงนายไพรจริง และนำไปชี้จุดที่นำปืนไปแอบซ่อนไว้ในสวนข้างบ้าน จึงแจ้งข้อกล่าวหาพยามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากนั้นวันนี้ช่วงสายที่ผ่านมาได้นำส่งศาลฝากขังแล้ว และเมื่อผู้บาดเจ็บได้มาเสียชีวิตลง หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป