วันที่ 3 ก.ค.66 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ปรา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 นายแพทย์นิรุต คุณกิตติ แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าตรวจสอบศพนางเภา 79 ปี นอนเสียชีวิตในสวนริมลำน้ำพอง บ้านท่าแก ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน
โดยจากการตรวจสภาพศพ พบว่าถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่คือ 1 แห่ง และบริเวณหน้าอกอีก 3 แห่ง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานจากศพผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบบริเวณหลังบ้านใกล้ที่ล้างจาน พบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ในอ่างล้างจานใกล้กันพบกองเลือดและรองเท้าแตะ ของผู้เสียชีวิตตกอยู่
ส่วนที่บริเวณชั้นล่างพบมีการนำถังสี เก้าอี้ พร้อมขวดเหล้าขาวจำนวน 6 ขวด เบียร์ 1 ขวด เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด และกระติกใส่น้ำ 1 ใบ ตำรวจได้กันพื้นที่ไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่าเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิตได้หายตัวไป
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ไปที่แท่นปูนแห่งหนึ่งริมถนนเลี่ยงเมือง เพื่อไปติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุ โดยได้ไปพบตัวนายสุรวิทย์ 28 ปี พนักงานโรงงานเครื่องรัดปากถุง เครื่องรัดถุงผัก ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเมา ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะหนีตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ
โดยนายสุรวิทย์ไม่ได้พูดอะไรมาบอกเพียงว่า เป็นคนที่อยู่บ้านลำพังและไม่ค่อยมีเพื่อนคบหา ที่บ้านจะอยู่กันกับน้องชายและพ่อ เงินที่ได้มาก็จะนำมาใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจจึงได้มีการประสานกับญาติว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครทำงานที่ไหน จนกระทั่งทราบว่าคนก่อเหตุคือนายสุรวิทย์ ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของผู้ตายก่อนที่ตำรวจชุดสืบสวน จะติดตามตัวได้
ซึ่งนายสุรวิทย์เดิมเคยมีภรรยาและลูก 2 คน อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้แยกทางกัน ก่อนที่จะกลับมาทำงานอยู่ที่ขอนแก่นจนกระทั่งในวันนี้ นายสุรวิทย์ได้นั่งดื่มสุราต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 และจะไปทำงานแต่รถน้ำมันไม่มีก่อนที่จะไปขอเงินจำนวน 100 บาท กับยายแต่ถูกยายปฏิเสธ
ทำให้เกิดความโกรธขึ้นมาเนื่องจากความเมาและขาดสติ จึงได้ใช้มีดปลายแหลมในบ้านแทงยายจนเสียชีวิต ก่อนที่จะอุ้มยายไปทิ้งในสวนผักฝั่งตรงข้ามบ้าน ก่อนที่จะไปที่ทำงานแต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมกับรับสารภาพว่ารู้สึกผิดและมีอาการทุกข์ใจ จากการแยกกับครอบครัว และต้องหาเงินเลี้ยงคนในบ้านก่อนที่จะดื่มสุราจนเมาและก่อเหตุขึ้น
นายยืนยง 57 ปี เล่าว่า ตนเองเป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตเป็นยายแท้ๆของผู้ก่อเหตุ ซึ่งยายเป็นคนรักหลานมากโดยจะเป็นเกาะกำบังปกป้องหลานมาโดยตลอด และจะคอยให้เงินใช้มาโดยตลอด ซึ่งนายเคยเข้ารับการบำบัดอาการทางประสาทมาก่อน จากการที่เคยเสพยาเสพติด และเมื่ออยู่บ้านก็จะมักโวยวายอยู่เพียงคนเดียว พร้อมกับชอบซื้อสุรามาดื่มเป็นประจำ
โดยที่บ้านหลังนี้ก็จะอาศัยเพียง 3 คน กับพ่อและน้องชาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ก่อนจะให้ตำรวจได้มีการสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อจะได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป