29 เมษายน 2024

ยอมรับตรงๆ เลยว่ากดดันสุดๆ สำหรับนักร้องหนุ่ม เพชร พุ่มพวง เจ้าของโรงงานจำหน่าย ลูกฟูกม้วน / กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น ทายาทคนเดียวของราชินีลูกผู้ล่วงลับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตามองเสมอ และด้วยความที่เป็นถึงลูกชายคนเดียวจึงทำให้เกิดคำถามก่อนหน้านี้อยากหลากหลายว่า สมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้มีตั้งเยอะหายไปไหนหมด แต่ทำไมทุกวันนี้ยังทำงานหนัก

ล่าสุด เพชร พุ่มพวง ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ Daily POP ทางยูทูบ Dailynews LIVE-TH โดยเจ้าตัวได้ย้อนเล่าถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาให้ฟังอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ที่คนสนใจเรื่องที่ออกมาชี้แจงปมมีสมบัติแม่ ไม่ต้องทำงานแล้ว แต่ความจริงต้องดิ้นรนอยู่และไม่มีเงินสมบัติใดๆ เลย จุดนี้อยากอธิบายอย่างไร ?
“ผมขออนุญาต พูดย้อนไปนิดนึง เพราะว่าช่วงนี้ผมทำ TikTok มีคนมาคอมเมนต์เยอะมากว่าลูกพุ่มพวง ผมรวย แต่ทำไมทำงานหนัก ผมได้มรดกเยอะแยะแต่ความจริงไม่ใช่เลย ตั้งแต่ผมโตมา ผมหาเงินเองทุกบาททุกสตางค์เลยครับ แต่ว่าที่เขามีเรื่องกันเรื่องมรดกคุณแม่ใช่ไหม ตอนนั้นผม 5 ขวบ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมเลยไม่รู้เรื่องเลย เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่”

เกิดเป็นลูกคนดัง ที่คนจับตามองสูญเสียความเป็นตัวเองไหม ?
“หลายคนคาดหวังว่าผมต้องร้องเพลงเก่งแบบคุณแม่ แต่ผมเป็นผู้ชาย เสียงอะไรก็ไม่เท่าแล้ว คุณแม่เขาโตมาในความเป็นลูกทุ่ง เขาก็ซึมซับตรงนี้มาล้านเปอร์เซ็นต์แล้ว คุณแม่ร้องเพลงดีมาก ร้องเอื้อนลูกคอเขาร้อยๆ ชั้น ผมโตมากับเพลงสตริงส่วนใหญ่ เลยร้องเพลงแนวสตริง ก็มีหลายคนต่อว่านะ ทำไมร้องเพลงไม่เหมือนแม่ ผมคิดว่าเราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ ต้องใช้เวลาอย่างเดียว พิสูจน์ในเรื่องนี้”

การเป็นลูกคุณแม่ผึ้ง พุ่มพวงทำให้เพชรกดดันไหม ?
“สุดๆ เลยครับ(ยิ้ม) ตั้งแต่เด็กๆ ด้วยซ้ำไป บางทีเราก็ไม่อยากร้องเพลง แต่เขาก็อยากให้เราร้องเพลง ลูกนักร้องก็ต้องร้องเพลง พอเราโตขึ้นก็เข้าใจในธรรมชาติของโลก แต่ละคนก็นานาจิตตังครับ”

ถ้าไม่ได้เป็น เพชร พุ่มพวง วันนี้ เรามีแนวเพลงถนัดหรืออยากร้องเพลงแนวไหน ?
“ผมอยากเป็นนักร้องเพลงร็อคครับ (หัวเราะ) ผมโตมากับเพลงพวกนี้ แต่เราเป็นลูกแม่ผึ้ง ทำให้เราต้องกดความเป็นตัวเองไว้บ้าง ถามว่าเสียดายไหมที่ยังไม่ได้เป็นนักร้องเพลงร็อค ผมมองว่าเอาไว้อาจจะได้ทำสักวันนึง วันที่เราพร้อมครับ ผมว่าผมชอบยุคสมัยนี้นะ เพราะคนเริ่มเปิดใจมากขึ้น เพราะเป็นยุคของโซเชียลมีเดีย เพราะว่าก็มีน้องๆหลายคนที่เป็นลูกศิลปินดารา ที่ร้องเพลงคนละแนวกับพ่อหรือแม่เขา พอเริ่มเปิดขึ้น คนก็เริ่มยอมรับมากขึ้น ผมก็ดีที่ยังทันยุคนี้อยู่ ถามเสียดายยุคก่อนๆไหม มันก็เสียดายอยู่แล้ว”

“ผมเคยมีครั้งหนึ่งที่รู้สึกเบื่อมากกับการที่ร้องเพลงในแนวที่เราไม่ถนัด แนวลูกทุ่ง ไม่อยากร้องเพลงแบบแม่ หลายครั้งเลย แต่เวลาที่ผมขึ้นไปบนเวที เวลาที่ผมเห็นคนที่เขาฟังเพลงแม่ผมแล้วร้องไห้ เห็นคนมีความสุขทำให้ผมเห็นว่าการเป็นศิลปินมันไม่ใช่ร้องเพลงเพื่อตัวเรา อาจจะเป็นการร้องเพลงให้คนอื่นเขาแฮปปี้ เขามีความสุขมากกว่า ก็รู้สึกว่าผมอยากจะทำหน้าที่ของการเป็นลูกของแม่ผึ้งให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง แต่เรื่องเพลงสตริง เพลงร็อคผมอาจจะมีโอกาสทำครับ ตั้งแต่เด็กหม่าหม้าเปิดเพลงสตริงให้ผมฟังนะ ไม่ได้เปิดเพลงลูกทุ่ง มาม้าเปิด อัสนี วัตสัน,ไฮร็อค, หิน เหล็ก ไฟ ผมเลยมาสายนี้ตั้งแต่เด็ก(ยิ้ม)”

สนิทกับพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ?
“ตอนเด็กๆ ก็สนิททั้งสองท่านนะครับ แต่พอคุณแม่เสียชีวิต ผมก็เลยสนิทกับคุณพ่อ อาจจะเป็นด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกันด้วย เลยสนิทกันมากครับ”

ในอดีตที่ผ่านมา เพชร พุ่มพวง เมื่อย้อนไปดูข่าวเก่าๆ เราจะเห็นข่าวแนวลบเยอะ และมีข่าวแรงๆ เยอะมากรู้สึกอย่างไร ?
“ผมก็ย้อนกลับไปดูบ้างนะ และคิดว่าถ้าเป็นเราตอนนี้ เราคงจะใจเย็นกว่าตอนนั้น และให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเครื่องพิสูจน์ ช่วงนั้นผมใจร้อน มันมีหลายสถานการณ์มากๆที่ทำให้ผมระเบิดออกมาตอนนั้น หมายถึงคลิปที่ผมเป็นพระตอนที่ระเบิดตอนนั้นนะ ก็นั่นแหละครับ จีวรบินเลยครับตอนนั้น (หัวเราะ) แต่ความเป็นจริงแล้วเราก็รู้สึกเสียใจนะ เวลาเราดูตัวเอง เราก็เสียใจนะ เราน่าจะใจเย็นกว่านี้ครับ”