26 เมษายน 2024

ผอ.เผยนักเรียนสาว ม.5 ถูกอดีตแฟนหนุ่มยิงดับ เป็นเด็กดี เรียนเก่ง ก่อนตายแชทบอกเพื่อนว่าอดีตแฟนหนุ่มขี่รถจยย.มาเฝ้าหน้าบ้าน-เคาะหน้าต่างกลางดึก

จากกรณี นายอนันตพงษ์ หรือ เจ๋ อายุ 22 ปี อดีตแฟนหนุ่ม ก่อเหตุบุกไปยิง น.ส.ณัฐฐาพร หรือ น้องอาย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 จำนวน 4 นัด ตายคาบ้าน ที่หมู่ 3 ตำบลปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อตอนเช้าของวันที่ 14 ม.ค.63 ที่ผ่านมา

อดีตแฟนหนุ่มกระหน่ำยิง สาว ม.5 รัว 4 นัด ดับคาบ้าน แค้นง้อไม่สำเร็จ
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.ลาภ คำภาพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.สวี ได้นำตัวนายอนันตพงษ์ หรือ เจ๋ ออกมาจากห้องขังเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีและครอบครองอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

หลังจากนั้นพรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังพลัดแรกต่อไป และเจ้าหน้าที่ไม่พาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของน้องอาย กลัวว่าจะถูกญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ผู้เสียชีวิตรุมประชาทันฑ์ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องอาย ได้มีคณะครูและเพื่อนๆ นักเรียน ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ทยอยมาเคารพศพและนำหรีดมาวางอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบถาม นายเกรียงศักดิ์ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า น.ส.ณัฐฐาพร หรือ น้องอาย เรียนอยู่ชั้น ม.5 สายศิลป์สังคม เป็นเด็กเรียนเก่งได้เกรด 3 กว่ามาตลอด ความประพฤติดี เป็นจิตอาสาของโรงเรียนทำงานกิจกรรมกับเพื่อนๆ ไม่เคยขาด ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย รู้สึกเสียใจกับครอบครัวและเสียดายอนาคตมาก

ด้าน น.ส.วีรดา หรือ น้องแนน อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวว่า ตนกับอายเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาลจนมาถึงชั้น ม.5 โรงเรียนเดียวกัน กินเที่ยวด้วยกันมาลอดพูดคุยกันทุกวัน ที่ผ่านมาก็รู้ว่าอายเพื่อนตนมีแฟนคบหากับนายเจ๋ มีปัญหาอะไรก็จะพูดคุยปรึกษากับเพื่อนๆ ในกลุ่มตลอด

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาน้องอายบอกว่าได้บอกเลิกกันด้วยดีกับนายเจ๋ เพราะอยากจะตั้งใจเรียนหนังสือและได้วาดหวังกับอนาคตไว้หลังเรียนจบ ม.6 แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกด้วย และฝ่ายชายยังชอบใช้ความรุนแรงทุบดีมาตลอด นอกจากนั้นยังคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา จนถึงขั้นข่มขู่จะยิงให้ตาย จนเพื่อนๆ ก็กลัวไปด้วย ซึ่งปัญหานี้อายเพื่อนตนบอกว่าไม่อยากเล่าให้แม่และครอบครัวรู้กลัวจะเสียใจ

การที่อายเพื่อนตนบอกเลิกกับนายเจ๋นั้นไม่ใช่ไปมีคนใหม่ ตนยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน เพียงแต่เขาอยากจะตั้งใจเรียนหนังสือให้จบและจะเรียนต่อระดับสูงๆ เพราะที่ผ่านมาอายบอกว่าฝ่ายชายเข้ามายุ่งกับชีวิตมากเกินไป ทั้งทุบตีใช้ความรุนแรงและคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา จนไม่สามารถตั้งใจเรียนหนังสือได้

ก่อนเกิดเหตุช่วงก่อนเที่ยงคืนอายยังได้แชทข้อความเข้ามาที่กลุ่มเฟซบุ๊กซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มกว่า 10 คน บอกว่านายเจ๋ขับรถจักรยานยนต์มาเวียนที่หน้าบ้านหลายรอบแล้ว และจอดเฝ้าอยู่ที่หน้าบ้าน จากนั้นก็บอกอีกว่าเจ๋อยู่หน้าบ้านและมาเคาะหน้าต่างด้วย

เพื่อนๆ ในกลุ่มก็แนะนำว่าให้ปิดทุกอย่าง ปิดเสียงโทรศัพท์ด้วย ล็อกกลอนประตูหน้าต่างให้ดีอยู่เงียบๆ และนอนรอให้มันไปเองและให้โทรแจ้ง 191 ว่ามีคนบุกรุก ซึ่งมีการแชทพูดคุยกันในกลุ่มนานจนถึงตี 2 เหตุการณ์ก็ผ่านไปด้วยดีไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ ขึ้น

น.ส.วีรดา กล่าวต่อว่า จากนั้นตอนเช้าวันใหม่ก่อนเกิดเหตุอายก็ยังแชทข้อความมาทักตามปกติ จากนั้นอีกไม่กี่นาทีต่อมามีคนโทรมาบอกว่าอายถูกยิงตายแล้ว ตนตกใจมากรีบขี่รถจยย.ไปที่บ้านเกิดเหตุและเห็นภาพอายถูกยิงตาย

หลังจากนั้นก็มีเพื่อนในกลุ่มมาเล่าให้ตนฟังว่ากลางดึกก่อนเกิดเหตุได้ฝันว่าอายมาเข้าฝันแล้วบอกว่า “พวกแกไปงานเราด้วย” แค่แวบเดียวสั้นๆไม่กี่วินาทีแล้วหายไปเลย จนตอนเช้ามารู้ว่าอายถูกยิงตายแล้ว

ด้าน นางวรรณี อายุ 65 ปี ยายของนายอนันตพงษ์ หรือ เจ๋ ซึ่งได้มาเยี่ยมหลาน กล่าวว่า เท่าที่รู้หลานตนได้คบหากับน้องอายผู้ตายมานาแล้วตั้งแต่สมัยเรียนชั้น ม.2 ทั้งคู่เข้าออกที่บ้านอยู่เป็นประจำ ปัจจุบันหลานตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปทั้งรับจ้างทำสวน ตัดหญ้า ตัดทุเรียนและเป็นลูกจ้างร้านขาย ซองพลาสติกใสแปะหน้ากล่อง ซองพลาสติกใสหลังกาว มีรายได้ส่วนหนึ่งก็ส่งเสียให้น้องอายได้เรียนหนังสือ ที่ผ่านมาช่วงปิดเทอมทั้งคู่ก็เคยไปรับจ้างทำงานด้วยกันด้วย

นางวรรณี กล่าวว่า นายอนันตพงษ์เป็นลูกของลูกสาวคนโตของตน เป็นมีชีวิตที่น่าสงสารมากเพราะกำพร้าทั้งพ่อและแม่มาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเกิดได้เพียง 3 วัน พ่อก็เป็นมะเร็งตาย ต่อมาตอนอายุ 5 ขวบ แม่ก็ไม่สบายตายไปอีกคน ตนจึงเอามาเลี้ยงไว้จนถึงปัจจุบัน หลังเรียนจบหนังสือชั้น ม.3 ก็ออกมาทำงานรับจ้างทั่วไป

ที่ผ่านมาหลานไม่เคยปรึกษาหรือพูดคุยปัญหาอะไรให้ฟังเลย เพราะหลานเป็นคนไม่พูดส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จนกระทั่งมารู้ว่าไปยิงน้องอายตายแล้วและติดต่อขอมอบตัวดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจมาก

ขณะที่ นางวาสนา อายุ 38 ปี แม่ของน้องอาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตอนเช้าตนต้องรีบออกไปทำงานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จากนั้นก่อน 8 โมงเช้าน้องอายโทรมาบอกว่าเดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะเอาการบ้านของน้องคือลูกสาวคนเล็กอายุ 3 ขวบ ไปฝากให้ตนพาไปส่งครูที่โรงเรียนชุมชนใน อ.สวี จากนั้นเกือบ 9 โมง ก็มีญาติโทรมาบอกว่าน้องอายลูกสาวถูกยิงตายแล้วจึงรีบกลับบ้านทันที เมื่อเห็นศพหัวใจแทบสลายทำใจไม่ได้เลย

นางวาสนา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประมาณ 1 ปี รู้ว่าลูกสาวตนมีแฟนคบหากับนายอนันตพงษ์ หรือ เจ๋ เคยพากันมาที่บ้านแต่ไม่บ่อยนัก และช่วง 2 เดือนก่อนเกิดเหตุนายเจ๋ไม่เคยมาที่บ้านอีกเลย และก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลยว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น อีกทั้งลูกสาวก็ไม่เคยมาเล่าหรือปรึกษาปัญหาให้ได้รับรู้เลย ยังเป็นคนร่าเริงสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่บอกว่าจะเลิกคบกับนายเจ๋แล้ว เพราะอยากจะตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียว

ส่วนกรณีที่มีญาติฝ่ายนายเจ๋บอกว่านายเจ๋ทำงานส่งเสียลูกสาวตนเรียนหนังสือนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ครอบครัวตนเป็นคนรับผิดชอบดูแลเองทั้งหมด จึงไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน