เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเข้มงวดจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเป็นคืนที่ 4 สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ทั้งหมดจำนวน 47 ราย มากสุดอยู่ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จำนวน 10 ราย โดยผู้ถูกจับกุมทั้งหมดไม่มีเหตุจำเป็น โดยมีหญิงคนหนึ่งให้เหตุผลว่าคิดถึง ถุงกระดาษคราฟท์ ถุงกระดาษเคลือบมัน ส่วนบางคนบอกว่าอยู่บ้านเหงาต้องการออกไปหาเพื่อน นอกจากนี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (6 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สันทราย และ ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ยังเข้าจับกุมร้านเกมและอินเตอร์เน็ต ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับรายงานว่าลักลอบเปิดให้บริการแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
โดยขณะเข้าจับกุมพบว่าบริเวณด้านหน้าร้านปิดประตูไม่เปิดให้บริการ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปทางด้านหลังร้าน พบ นายภาคิน อายุ 42 ปี แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว และ พบเด็กเยาวชนชายหญิง จำนวน 5 คน กำลังนั่งเล่นเกมออนไลน์ในลักษณะเปิดให้บริการตามปกติ แต่ได้มีการปิดผ้าม่าน เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกเห็น
เจ้าหน้าที่จึงให้เยาวชนรีบกลับบ้านก่อนเคอร์ฟิว พร้อมจับกุมนายภาคิน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 2/2563 และ 7/2563 ที่มีคำสั่งให้ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์ 5 ชุด นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
บ่ายวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบที่ร้านเกมดังกล่าวพบว่าปิดให้บริการไม่ได้เปิดให้บริการอีก ขณะที่นายภาคิน เจ้าของร้าน ที่ประกันตัวออกมา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว โดยยอมรับว่าได้ฝ่าฝืน เปิดให้บริการจริง แต่ก็ให้เหตุผลว่าจำใจต้องฝ่าฝืนเพราะไม่มีจะกิน นับตั้งแต่มีคำสั่งปิดให้บริการ ทำให้ไม่มีรายได้ ขณะที่ยังมีหนี้สินที่จะต้องจ่าย ทั้ง ค่าผ่อนรถ ค่าอาหารการกิน และ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงจำใจเป็นต้องเปิดหวังหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ส่วนความผิดที่ถูกจับกุมก็ยอมรับและพร้อมที่จะรับโทษตามที่กฎหมาย ส่วนหลังจากนี้ไปก็คงจะต้องปิดให้บริการตามคำสั่งและจะไม่เปิดอีก
ขณะที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ระบุ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งฟ้องต่อศาลภายใน 15 วัน ขณะที่ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน