ชายชุดพรางคลั่งทุบรถ กองทัพเรือยอมรับเป็นทหารจริง เคยตีจ่าหัวแตกมาแล้ว เตรียมสั่งปลดให้พ่อแม่พาไปรักษาตัว
พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า หลังจากที่โซเชียลแห่แชร์ คลิปชายแต่งกายในชุดพรางทหารเรือ ท่าทางคล้ายกับคนเมายา ก่อความวุ่นวาย บนท้องถนน ในพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพลทหารสังกัดฐานทัพเรือพังงาจริง ถุงใส่ของขวัญ ถุงกระดาษใส่ของขวัญ
โดยก่อนหน้าที่จะก่อเหตุ มีอาการป่วยทางจิต มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายข้าราชการในกองร้อย จึงได้นำเข้าสู่กระบวนรักษา โดยทางครอบครัวได้ติดต่อหน่วยต้นสังกัดเพื่อขอนำไปรักษาตัวต่อเนื่อง
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พลทหารคนดังกล่าว ประจำการที่ กองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือพังงา หน่วยต้นสังกัด ได้ตรวจพบว่า มีอาการผิดปกติ จึงได้นำส่งโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงาและวินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีอาการทางจิตเวช แต่เนื่องจากโรงพยาบาลของหน่วยไม่มีขีดความสามารถ ในการรองรับผู้ป่วยทางจิตเวช จึงจะส่งโรงพยาบาลของกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ พื้นที่สัตหีบ ทำการรักษาต่อไป แต่ผู้ปกครองได้ติดต่อต้นสังกัดแจ้งว่า ลูกชายเคยเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดก่อนเข้าประจำการ จึงขอรับไปรักษาต่อเนื่องที่ สถานพยาบาลในภูมิลำเนา โดยหน่วยต้นสังกัดอนุญาตให้ทำการมาเยี่ยมภูมิลำเนาได้ตามชุดพัก
เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 23 พ.ย.66 ผู้ป่วยได้มารับใบลาที่หน่วยและเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมกับผู้ปกครอง ในระหว่างการเดินทางกลับได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งในรถส่วนตัว หลังจากนั้นได้ออกจากรถมาก่อเหตุสร้างความวุ่นวายบนท้องถนน จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาระงับเหตุ และพาไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจ 1 คืน แล้วก็ปล่อยตัว จากนั้นผู้ปกครองได้นำตัวไปรักษาและบำบัดยาเสพติด ที่ ศูนย์มูลนิธิบำบัดยาเสพติด อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อไป
โดยล่าสุดในส่วนของกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือพังงา ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ได้ประสานไปที่พ่อ-แม่ ผู้ป่วย เพื่อที่จะไปเยี่ยมอาการและให้ความช่วยเหลือครอบครัว ตามที่หน่วยจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ รวมทั้งจะตั้งคณะกรรมการพิจารณา และขอความเห็นชอบจาก แพทย์ที่ทำการรักษา ตามระเบียบ เพื่อพิจารณาปลดกำลังพลผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตเวช เพื่อที่จะสามารถให้การรักษาได้อย่างเต็มที่ต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพเรือ มีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภายในหน่วยทหารอย่างเข้มงวด โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้มีการกวดขันและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานของกองทัพเรือ ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมถึงให้การดูแลเอาใจใส่ทหารกองประจำการ ซึ่งถือว่าเป็นน้องเล็กคนสุดท้องของกองทัพเรือ ให้เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน