28 เมษายน 2024

ค่ำวันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สมมาตย์ สว.สอบสวน สภ.เขาพนม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ 10 ต.เขาพนม หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ

แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.ท.อาวุธ ขำแผลง รอง ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.ท.วิทยา ทองคง รอง ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ แพทย์เวร รพ.เขาพนม จนท.กู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจเขาพนม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ภายในสวนยางที่เกิดเหตุ ใกล้กับขนำไม้ พบร่างผู้เสียชีวิตถูกรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ล้มทับอยู่ ที่ตะกร้ารถยังมีกระเป๋าใส่เงิน และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตั้งอยู่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ปิ่นมณี อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานโรงงานสติ๊กเกอร์ม้วนพิมพ์ลาย สติ๊กเกอร์แต๊งกิ้ว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ลักษณะจ่อยิงเข้ากกหูขวา ทะลุท้ายทอย 1 นัด เศษเขม่าดินปืนติดเต็มปากแผล

นอกจากนี้ยังพบแผลรูกระสุนปืนเข้าบริเวณแขนขวา 1 แผล ใกล้กันพบกระสอบปุ๋ยใส่อุปกรณ์ทำสวน และหน่อไม้ ตกอยู่ 1 กระสอบ ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบมวนบุหรี่ใหม่ตกอยู่ 1 มวน บนพื้นดินในขนำพบรอยรองเท้าผ้าใบ จนท.เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้

เบื้องต้นสอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่าช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากจุดดังกล่าวประมาณ 4-5 นัด แต่ไม่เห็นคนร้าย ว่ามากันกี่คน ใช้อะไรเป็นยานพาหนะ ตอนนั้นชาวบ้านไม่คิดว่าจะมีคนถูกยิง จึงไม่มีใครเข้ามาดู กระทั่งเวลา 17.45 น. ด.ช.แจ็ค อายุ 13 ปี หลานชายของผู้ตาย มาหาผู้ตายที่สวน ก็พบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่แล้ว

ตำรวจคาดว่าคนร้าย น่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ทราบว่าผู้ตายต้องเข้ามาดูแลสวนทุเรียน ที่อยู่ติดกับสวนยางเกิดเหตุทุกวันซึ่งขณะนี้ทุเรียนกำลังให้ผลผลิต จึงมาดักรอที่ขนำ กระทั่งผู้ตายมาถึง จอดรถยังไม่ทันลงจากรถ คนร้ายเข้ามาพูดคุยด้วย ก่อนจะชักปืนออกมาจ่อยิงใส่ผู้ตายจนล้มลง และอาจจะยิงซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป

ส่วนปมเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ตำรวจจะสอบสวนญาติผู้ตายอีกครั้ง เพื่อเร่งติดตามตัวมือปืนผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ด้านนางประคอง อายุ 61 ปี แม่ผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายเคยมีสามีเลิกกันกว่า 10 ปีแล้ว และพักอยู่บ้านกับแม่ และ ด.ช.แจ็ค หลานชาย ส่วนลูกสาวของคนตายอายุ 17 ปี ไปมีสามีอยู่อีกหมู่บ้าน ปกติจะไม่ค่อยออกไปไหน และไม่เคยมีปัญหากับใคร จะเข้ามาทำสวนเป็นประจำ

ก่อนเกิดเหตุก็ออกจากบ้านมาประมาณ 15.00 น. แต่พอตกเย็นเห็นยังไม่กลับบ้าน เริ่มผิดปกติจึงลองโทรมาหาแต่ไม่มีคนรับสาย จึงให้ ด.ช.แจ็ก หลานชายตามมาดู ก็มาพบเป็นศพแล้ว ก่อนนี้ลูกไม่เคยพูดให้ฟังว่ามีปัญหาอะไรกับใครบ้าง จึงยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด